ศูนย์ มะเร็งดร.ภัทร์ และสหคลินิกสมุฎฐาน - Leadership Way

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad



วันศุกร์ที่ 29 กันยายน พ.ศ. 2566

ศูนย์ มะเร็งดร.ภัทร์ และสหคลินิกสมุฎฐาน

ดร.ภัทร์ เปิดศูนย์มะเร็ง ดร.ภัทร์ ทางเลือกการรักษามะเร็งแบบบูรณาการ

  วันที่ 29 กันยายน 2566 เวลา 11.00 น. หมู่บ้านชวนชื่นโมดัสเซนโทร เมืองทองธานี
   ดร.ภัทร์-พญ.รดา หนังสือ ทำพิธีเปิดศูนย์ มะเร็งดร.ภัทร์ และสหคลินิกสมุฎฐาน ณ อาคารเวชกร หมู่บ้านชวนชื่นโมดัสเซนโทร เมืองทองธานี  อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี

    ศูนย์มะเร็ง ดร.ภัทร์ เป็นศูนย์รักษาโรคมะเร็ง โดยการใช้วิธีการรักษาแบบบูรณาการ ตามทฤษฎีเวชศาสตร์สมุฎฐาน เป็นทางเลือก สำหรับผู้ป่วยมะเร็งในทุกระยะ ตั้งแต่ระยะเริ่มต้นไปจนถึงระยะประคับประคอง รวมทั้งผู้ป่วยที่ไม่ประสงค์จะรับการรักษาด้วยการผ่าตัด เคมีบำบัด หรือฉายรังสี 
   ซึ่งวิธีการบำบัดของศูนย์มะเร็ง ดร.ภัทร์  จะใช้สารสกัดสมุนไพรที่ได้มาตรฐานผ่านกระบวนการวิจัยพัฒนาทางด้านความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการ ควบคุมเซลล์มะเร็งไม่ให้เจริญเติบโต หรือทำให้เซลล์มะเร็งตายทั้งในรูปแบบของ Apoptosis และ Non-Apoptosis  ด้วยเทคโนโลยีชีวภาพที่ชื่อว่า T-wrapt เป็นเทคโนโลยีที่ใช้สารสำคัญจากสมุนไพรในรูปแบบขององค์รวมพร้อมกันนับร้อยกลไกในการจัดการกับเซลล์มะเร็ง 


     ซึ่งแตกต่างจากยาแผนปัจจุบันในการรักษามะเร็ง เช่นเคมีบำบัด หรือยามุ่งเป้า หรือภูมิคุ้มกันบำบัดซึ่งเป็นยากลไกเดี่ยว ซึ่งผลที่ได้และการวิจัยมักพบว่า ก่อให้เกิดผลข้างเคียงต่อสุขภาพร่างกายคนไข้อย่างมาก รวมทั้งทำให้เซลล์มะเร็งเกิดการกลายพันธ์ ดื้อยา และแพร่กระจายเพิ่มขึ้น ซึ่งถือเป็นข้อจำกัดของการรักษา
    การรักษามะเร็งด้วยเทคโนโลยีชีวภาพ T-wrapt ของศูนย์มะเร็งดร.ภัทร์ เป็นเทคโนโลยีชีวภาพในรูปแบบขององค์รวม ในการปิดกั้นและห่อหุ้มเซลล์มะเร็งหรือเนื้องอกไว้ภายใน เพื่อยับยั้งปัจจัยการเจริญเติบโตที่ส่งเสริมเซลล์มะเร็ง ส่งผลให้เซลล์มะเร็งที่ถูกห่อหุ้มไว้ชะงักการเจริญเติบโต และค่อย ๆ ตายลงตามวัฏจักรของเซลล์ที่คล้ายกับเซลล์ปกติ   การบำบัดรักษาจะเริ่มต้นที่รากฐานของร่างกายคือระบบนิเวศน์ของ Microbiome หรือจุลินทรีย์นับร้อยล้านล้านตัวในลำไส้ใหญ่  

    ซึ่งทำหน้าที่ควบคุมระบบภูมิคุ้มกัน การตอบสนองต่อเนื้องอก และควบคุมยีนส์ต่างๆในร่างกายมนุษย์ไม่ให้ผิดปกติ การปรับสมดุลย์ Microbiome นั้นจะเริ่มจากการขับล้างสิ่งสกปรกและของเสียในลำไส้ (Detoxification)  ซึ่งทางคลีนิคพบว่า ผู้ป่วยมะเร็งส่วนใหญ่จะมีอาการถ่ายดำ มีกลิ่นฉุนรุนแรงในช่วงแรกของการรักษาด้วยสมุนไพร 
    สมุนไพรที่เป็นองค์รวมจะส่งเสริมสมดุลย์ของระบบนิเวศน์ Microbiome ด้วยการยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้่อก่อโรค และกระตุ้นการเจริญเติบโตของเชื้อเสริมชีวนะ  Probiotics ชนิดต่าง ๆ ทำให้เกิดการอยู่ร่วมกันอย่างไม่ก่อโทษให้กับร่างกายมนุษย์
    หลังจากการปรับสมดุล Microbiome จะส่งผลให้เกิดการฟื้นฟูระบบภูมิคุ้มกัน ทำให้ระบบเม็ดเลือดขาวและเซลล์ภูมิคุ้มกันชนิดต่าง ๆ ทำงานเป็นปกติ ส่งผลให้เกิดกระบวนการลดการอักเสบที่เกิดขึ้นภายในเนื้อเยื่อของเซลล์มะเร็งและในร่างกาย 

    นอกจากการปรับสมดุลของ Microbiome สารชีวออกฤทธิ์สมุนไพรของศูนย์มะเร็ง ดร.ภัทร์ จะมีกลไกหลากหลายอื่น ๆ ที่ช่วยในการยับยั้งมะเร็งแบบบูรณาการ เช่น
    การยับยั้งสารก่อการอักเสบ Cytokines ชนิดต่าง ๆ เช่น IL-1b, IL-6 ที่ส่งเสริมการเจริญเติบโตและการแพร่กระจายของเซลล์มะเร็ง ลดปริมาณของ oxidative stress เช่น reactive oxygen species - ROS และ ไนตริคออกไซด์ NO ซึ่งถูกผลิตจากเซลล์มะเร็งเป็นจำนวนมาก และเป็นปัจจัยการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็ง 

     การทำให้เซลล์มะเร็งตายแบบ  Apoptosis และ Non-Apoptosis   ซึ่งผลการทดสอบเปรียบเทียบกับยามาตรฐาน Doxorubucin พบว่าสารสกัดสมุนไพรเคอร่า มีประสิทธิภาพในการทำให้เซลล์มะเร็งตายมากกว่ายาเคมีบำบัดมาตรฐาน Doxorubicin ถึง 425% ในขณะที่ความเข้มข้นต่ำกว่า และไม่เป็นพิษต่อเซลล์ปกติ  
    การยับยั้งยีนก่อมะเร็งหลายชนิดซึ่งกลายพันธุ์ทำให้มีปริมาณเพิ่มสูงขึ้นในเซลล์มะเร็งจนทำให้เติบโตผิดปกติ เช่น EGFR, NF-kB, KRAS, MYC, HIVa, LONP1 เป็นต้น

    การกระตุ้นยีนยับยั้งเนื้องอก เช่น WTP53, CDK1A, GSTO1, MXI1, NDRG1  ที่ทำหน้าที่ในการหยุดวัฎจักรเซลล์ เมื่อเซลล์มีการเจริญเติบโตเร็วผิดปกติ การซ่อมแซม DNA ที่ผิดปกติ รวมทั้งการส่งสัญญานเพื่อให้เซลล์มะเร็งตายแบบ Apoptosis เมื่อเซลล์เติบโตเร็วเกินกว่าที่จะควบคุมได้
    กลไกการปรับสมดุลการแสดงออกของยีนทั้งระบบ Overall Gene Regulation  ซึ่งตรงนี้เป็นหัวใจสำคัญของการตอบคำถามที่ว่า ทำไมต้องใช้ยาสมุนไพรแบบองค์รวมในการรักษาโรคมะเร็ง ซึ่งเป็นโรคที่มีความผิดปกติในด้านการแสดงออกของยีนและลำดับเบสในสายพันธุกรรม DNA ที่บกพร่อง ซึ่งไม่สามารถจะสร้างความสมดุลได้ด้วยกลไกเดี่ยวในระดับยีนเพียงเท่านั้น 
     การกระตุ้นความเป็นพิษของ Cytotoxic T-Cell (cd8)  ซึ่งทำหน้าที่ในการฆ่าเซลล์มะเร็งและทำให้เซลล์มะเร็งตายควบคุม การเติบโตของเนื้องอก ผ่านกลไกการทำงานของไซโตไคน์ต้านการอักเสบ คือ IL-10 และการสร้างสมดุลของ Microbiome  

 การเพิ่มโปรตีนสัญญาณการตายของเซลล์ที่ผิดปกติ คือ cappase 8 และ cappsae 9 ทำให้เซลล์มะเร็งเกิดการตาย
     การที่มีกลไกต่าง ๆ ที่หลากหลายเหล่านี้ร่วมกันออกฤทธิ์ทั้งระบบนั้น ผลทางคลินิกในผู้ป่วยจำนวนมากพบว่า ทำให้สามารถควบคุมการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งในร่างกายให้โตช้าลงและค่อย ๆ ตายไป 
    ซึ่งการศึกษาถึงกลไกทางชีวเคมีต่าง ๆ เหล่านี้ของสมุนไพร รวมถึงการศึกษาถึงความปลอดภัยของสมุนไพรนั้น  ทางสหคลินิกได้รับความร่วมมือจากสถาบันการศึกษาหลายแห่ง เช่น ห้องปฏิบัติการชีวเคมี มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โดย  
    รศ.ดร.เกียรติทวี ชูวงศ์โกมล และสถาบันส่งเสริมการวิจัยและนวัตกรรมสู่ความเป็นเลิศ มหาวิทยาลัยวลัยลักษณ์ ซึ่งงานวิจัยต่าง ๆ เหล่านี้บางเรื่องก็ได้รับการตีพิมพ์ในวารสารระดับนานาชาติแล้ว ถือเป็นเรื่องที่น่ายินดีและน่าภาคภูมิใจสำหรับคนไทย 

     ซึ่งกระบวนการออกฤทธิ์ของสมุนไพรนั้น  จะเห็นได้ว่าเป็นกลไกแบบองค์รวม ซึ่งเป็นกลไกที่หลากหลายนับร้อยกลไก เปรียบเสมือนกองทัพที่ระดมจัดการกับซลล์มะเร็งทุกทิศทุกทาง ทำให้เซลล์มะเร็งไม่สามารถดิ้นรนจนเกิดการกลายพันธุ์ได้เหมือนกับยากลไกเดี่ยวซึ่งเป็นกลไกของยาเคมี 
      นอกจากการใช้สมุนไพรแล้ว การรักษามะเร็งของศูนย์มะเร็ง ดร.ภัทร์  ยังได้ผสมผสานกับข้อแนะนำในด้านการปรับเปลี่ยนวิถีชีวิต เช่น อาหาร น้ำดื่ม การออกกำลังกาย การอดอาหาร 16-18 ชั่วโมง การพักผ่อนนอนหลับ การฝึกลมปราณและปัญญาสมาธิ  การออกกำลังกายในรูปแบบที่สามารถทำให้ร่างกายสามารถแย่งชิงการใช้น้ำตาลกลูโคส กับเซลล์มะเร็ง 
    ส่งผลให้เซลล์มะเร็งขาดอาหารและเจริญเติบโตช้าลง พร้อมกับการกระตุ้นการเพิ่มปริมาณของไมโตคอนเดรีย  ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานของเซลล์ร่างกาย ทำให้เกิดการฟื้นฟูร่างกายและเสริมระบบภูมิคุ้มกัน รวมทั้งการใช้ปลิงบำบัด (Leech Therapy) เพื่อส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกัน การไหลเวียนและการนำพาสารสำคัญของสมุนไพรเข้าไปสู่เซลล์มะเร็งได้ดีขึ้น

    สหคลินิกสมุฎฐาน ยังเปิดรับรักษาโรคทั่วไป เช่น เบาหวาน ความดัน หลอดเลือด หัวใจ โรคเก๊าท์ รูมาตอยด์ โรคระบบภูมิคุ้มกัน sle โรคกล้ามเนื้อและกระดูก  กระดูกทับเส้น ออฟฟิศซินโดรม ภาวะเสื่อมของดวงตาและการมองเห็น และโรคเรื้อรังชนิดอื่นๆ ทั่วไป

สนใจ ปรึกษาปัญหาสุขภาพกับ ดร.ภัทร์ 
LIne : @doctorpat1
โทร : 061-0514999

ท้ายข่าว Post Bottom Ad



Pages