สตม.ปิดเกมส์ อาตี๋หนีคดีปลอมบัตรซ่อนตัวกลางกรุง ค้นรถพบใบขับขี่ไทยชื่อจีนหลายใบ จ่อขยายผล
จากกรณีที่ พล.ต.ท.ภาณุมาศ บุญญลักษม์ ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปรัชญา ประสานสุขและ พล.ต.ต.พันธนะ นุชนารถ รอง ผบช.สตม. สั่งการให้หน่วยงานในสังกัดยกระดับการป้องกันปราบปรามอาชญากรรม โดยเฉพาะความผิดที่เกี่ยวกับคนเข้าเมือง เช่น หลบหนีเข้าเมือง อยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด หรือ overstay และชาวต่างชาติที่มีลักษณะเป็นอาชญากร หรือเป็นสมาชิกองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ซึ่งเป็นความรับผิดชอบหลักของ สตม. โดยสั่งการและกำชับให้เพิ่มความเข้มในการตรวจสอบบังคับใช้กฎหมาย โดยให้เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่รับผิดชอบงานสืบสวนเน้นลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวอย่างต่อเนื่อง
ล่าสุดเมื่อวันที่ 17 ก.ค.2568 พล.ต.ต.ประสาธน์ เขมะประสิทธิ์ ผู้บังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 พร้อมด้วย พ.ต.อ.ระพีพัฒน์ อุตสาหะ รองผู้บังคับการฯ รับผิดชอบงานตรวจคนเข้าเมืองในพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้ร่วมกันแถลงผลปฏิบัติการจับกุมคนร้ายสำคัญต่อสื่อมวลชน หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ได้รับข้อมูลว่ามีบุคคลต่างด้าวสัญชาติจีน ลักลอบหนีหมายจับจากประเทศจีน เข้ามากบดานในไทย และรับทำบัตรประชาชนปลอม หรือหนังสือเดินทางปลอม ให้กับคนจีนที่อยู่ในประเทศไทย โดยหลังทราบข้อมูล พ.ต.อ.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ ผกก.สืบสวน บก.ตม.1, พ.ต.ท.สุริยะ พ่วงสมบัติ รองผู้กำกับการสืบสวนฯ พร้อมชุดปฏิบัตินำโดย พ.ต.ท.ทวีทรัพย์ ชัยภูมิ และ พ.ต.ท.ธงไทย ไพเราะ สว.กก.สืบสวน บก.ตม.1 เรียกประชุมชุดสืบสวนในการลงพื้นที่สืบสวนหาข่าว
ซึ่งการจับกุมในคดีนี้เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2568 เวลาประมาณ 06.00 น. หลังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง สังกัด บก.ตม.1 ชุดสืบสวน ได้นำกำลังลงพื้นที่สืบสวนหาข่าวในพื้นที่ซอยวิภาวดี 4 - 8 ซึ่งได้รับข้อมูลจากสายลับว่าบุคคลต่างด้าวที่เป็นเป้าหมายมักจะใช้เป็นเส้นทางหลบเลี่ยงการตรวจตราของเจ้าหน้าที่ โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจได้กระจายกำลังกันสังเกตการณ์เนื่องจากชุดสืบสวนเชื่อว่า บุคคลต่างด้าวเป้าหมายจะต้องมาปรากฏตัว จนกระทั่งเวลาประมาณ 16.00 น. เจ้าหน้าที่ได้พบบุคคลต่างด้าวลักษณะใกล้เคียงกับบุคคลต่างด้าวเป้าหมาย มีตำหนิรูปพรรณใกล้เคียงกับที่สายลับแจ้ง ขับรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ยี่ห้อนิสสัน อัลเมร่า สีเทา ติดฟิล์มทึบ เจ้าหน้าที่ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองที่เป็นชุดสืบสวนจึงได้ขับรถเข้าสกัด และแสดงตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจและแสดงบัตรประจำตัวให้ดูเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้ขอตรวจสอบเอกสารประจำตัวหรือหนังสือเดินทางของผู้ถูกจับ ผลการตรวจสอบทราบชื่อผู้ถูกจับคือ MR.WANG MING (นามสมมติ) สัญชาติจีน อายุ 40 ปี แสดงหนังสือเดินทางของผู้อื่น แต่เจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่าหน้าไม่ตรงกัน
จึงขอตรวจค้นรถ ผลการตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบใบขับขี่ทั้งไทย และสากล รวมถึงหนังสือเดินทางเล่มอื่น ซึ่งเชื่อว่าปลอม จากการสอบถามผู้ต้องหาให้การปฏิเสธว่าไม่ช่ของตน ในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่จึงแจ้งข้อกล่าวหา “เป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” ตรวจสอบประสานงานกับหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายระหว่างประเทศพบว่า MR.WANG MING เป็นบุคคลที่มีหมายจับ และเป็นที่ต้องการตัวในประเทศจีน โดยได้กระทำความผิดฐานนำข้อมูลส่วนบุคคลของผู้อื่นมาปลอมแปลงบัตรประชาชน@ หนังสือเดินทาง และใบขับขี่ กระทำความผิดฐานเปิดบ่อนการพนันโดยผิดกฎหมาย และขัดคืนคำสั่งหรือคำพิพากษาของศาล ก่อนหลบหนีออกจากประเทศมากบดานในประเทศไทยอีก เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาและควบคุมตัวผู้ถูกจับมาที่ กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. เพื่อทำบันทึกจับกุมและนำตัวผู้ถูกจับส่ง พงส. กลุ่มงานสอบสวน บก.สส.สตม. เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย อนึ่ง ในส่วนของใบอนุญาตขับรถที่พบทั้งหมด 5 ใบ จะได้ดำเนินการส่งตรวจสอบว่าเป็นของผู้ใด และมีการปลอมแปลงขึ้นมาทั้งฉบับ หรือแต่ส่วนหนึ่งส่วนต่อไป
#อาตี๋หนีคดีปลอมบัตร #คดีปลอมบัตร #หลบหนีเข้าเมือง #overstay #ปลอมแปลงบัตรประชาชน #เปิดบ่อนการพนัน