ราชบุรี / วอนช่วยเด็ก ม.2 เดินออกไปขึ้นรถไป รร.กือบ 3 ก.ม. แถปมบ้านก็ใกล้พัง ... - Leadership Way

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันพฤหัสบดีที่ 17 กรกฎาคม พ.ศ. 2568

ราชบุรี / วอนช่วยเด็ก ม.2 เดินออกไปขึ้นรถไป รร.กือบ 3 ก.ม. แถปมบ้านก็ใกล้พัง ...

  วอนช่วยเด็ก ม.2 ต้องเดินออกไปขึ้นรถไปโรงเรียนเกือบ 3 ก.ม. แถมบ้านก็ใกล้พัง ...

จากกรณีที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊คชื่อ Nirun Tuptimorn  ได้โพสต์ข้อความ ช่วยกันบอกบุญกันต่อๆไป 17/7/68  น้องมาร์คนักเรียนชั้น ม.2 บ้านน้องอยู่อำเภอปากท่อ เรียนอยู่ที่โรงเรียนปากท่อพิทยาคม วันหนึ่ง น้องกำลังเดินกลับบ้าน ระยะทางเดินเข้าบ้าน ประมาณ 3 กิโลเมตร มีพี่เขาขับรถมอเตอร์ไซค์ผ่านเลยรับ ไปส่งที่บ้าน ทางเดินเข้าบ้านเป็นทางลูกรัง เวลาฝนตก ต้องถอดรองเท้าเดิน เพราะถนนจะเละมาก  น้องมีขุดนักเรียนเพียงชุดเดียว ส่วนที่บ้าน น้องอาศัยอยู่ ปู่กับย่า โดยปู่อายุ 80 กว่า เดินไม่ไดั ย่าก็มีโรคประจำตัว สภาพบ้าน แทบจะล้ม เสาเอียงน่ากลัว ส่วนห้องน้ำเป็นแค่นำผ้ามาบังเท่านั้น ชักโครกเก็บเอามาใช้ ส่วนน้องเป็นเด็กเรียนดี ท่านเจ้าอาวาส วัดไทยประจันต์ ท่านช่วย ในเรื่องค่ารถและค่าไปกินโรงเรียน   ซึ่งภายหลังจากที่โพสต์ข้อความดังกล่าวออกไปมีผู้เข้าไปแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

ล่าสุดในวันที่ 17 ก.ค. 68 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปที่บ้านเลขที่ 63 หมู่ 5  ต.ยางหัก อ.ปากท่อ จ.ราชบุรี ซึ่งเป็นบ้านของมาร์ค หรือ ด.ช.ศุภสิทธิ์  ลายวงศ์  อายุ 13 ปี  นักเรียนชั้น ม.2 โรงเรียนปากท่อพิทยาคม พบว่าตั้งแต่ปากซอยเข้าไปถึงบ้านของน้องมาร์คมีระยะทางประมาณ 2.9 กิโลเมตร เป็นเส้นทางลูกรังถนนเป็นหลุมเป็นบ่อ บางช่วงก็มีน้ำขังจนเป็นขี้เลน ทำให้ยากลำบากในการที่จะเดินเท้า  โดยได้พบน้องมาร์คซึ่งกลับจากโรงเรียนและกำลังเดินเข้าบ้าน ผู้สื่อข่าวจึงนำน้องมาร์คขึ้นรถให้พาไปที่บ้าน  พบว่าบ้านของน้องมาร์คนั้นเป็นบ้านไม้ยกพื้นสูง  ตัวบ้านเอียงจะล้มแต่มีการนำท่อนไม้จำนวนหลายท่อนไปค้ำเอาไว้  ซึ่งเป็นที่น่าหวาดเสียวสำหรับผู้อยู่อาศัย  ห้องน้ำก็ไม่มีประตูใช้แค่ผ้าปิดไว้  ส่วนในตัวบ้านก็จะมีหลอดไฟสำหรับแสงสว่างเพียงดวงเดียวทั้งบ้าน โดยน้องมาร์คนั้นจะอาศัยอยู่กับยายทวดที่ป่วยหลายโรคและเดินไม่ค่อยไหว  กับตาทวดที่ป่วยด้วยเส้นเลือดในสมองแตก  ต้องนั่งรถวีลแชร์เพราะไม่สามารถที่จะเดินได้  

ซึ่งนางลัดดา พงษ์ทวี  อายุ 75 ปี  ยายทวดของน้องมาร์คก็เล่าให้ฟังว่า เลี้ยงน้องมาร์คมาตั้งแต่แรกเกิด ส่วนพ่อแม่ของน้องแยกทางกันและไม่รู้ว่าไปอยุ่ที่ไหน ตนกับตาทวดช่วยกันเลี้ยงน้องมาร์คโดยมีตาทวดเป็นคนทำงานหาเลี้ยงครอบครัว ต่อมาเมื่อ 6 เดือนที่ผ่านมาตาทวดก็ล้มป่วยทำงานไม่ได้เลย  ทำให้ครอบครัวลำบากมาก  แต่ก็ได้รับความเมตตาจากหลวงพ่อที่วัดไทยประจันต์ ซึ่งอยู่ใกล้บ้าน ได้ช่วยนำข้าวกับข้าวมาให้และมีลูกสาวนำมาให้บ้าง ซึ่งลูกสาวก็ป่วยเป็นมะเร็งที่คอช่วยเหลืออะไรไม่ได้มาก  นอกจากนี้หลวงพ่อยังช่วยออกค่าใช้จ่ายเรื่องการเรียนให้กับน้องมาร์ค ส่วนตัวน้องมาร์คก็เรียนเก่งมากได้เกรดเฉลี่ย 3.50 เป็นเด็กดีรักตาทวดกับยายทวดมาก เวลากลับจากโรงเรียนก็จะต้องเข้ามากอดมาหอมยายทวดทุกวัน เวลานอนตนก็จะสอนน้องมาร์คเรื่องไม่ให้ไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและไม่ให้ไปลักขโมยของของคนอื่น ในอนาคตหากตนไม่อยู่แล้วก็ยังไม่รู้ว่าน้องมาร์คจะอยู่อย่างไร ตอนนี้เป็นห่วงน้องมาร์คที่สุด

 ส่วนน้องมาร์คก็บอกว่า ทุกวันตนเองจะต้องตื่นตั้งแต่ 04.00 น. หลังจากที่อาบน้ำแต่งตัวกินข้าวแล้วเวลา 05.30 น. ก็จะต้องเดินออกไปขึ้นรถเมลล์และเป็นรถรับส่งนักเรียนด้วย ในเวลาประมาณ 06.00 น. ที่บริเวณปากซอยระยะทางเกือบ 3 กม. ทุกวัน ซึ่งบริเวณไหนที่มีถนนเละเทะเพราะมีฝนตกก็จะต้องถอดถุงเท้าและรองเท้าเดินข้ามไป แล้วไปขอล้างเท้าที่ร้านค้าปากซอย  ก่อนจะใส่ถุงเท้าและรองเท้าเหมือนเดิม ไม่เคยที่จะไปไม่ทันรถรับส่งและไม่เคยท้อที่จะต้องเดินเท้าไป-กลับ เกือบ 6 กม. และต้องนั่งรถไปโรงเรียนอีกกว่า 50 กม. ซึ่งตนยังไม่อยากคิดว่าโตขึ้นอยากจะเป็นอะไรขอดูที่อนาคตอีกครั้ง

สำหรับผู้ใหญ่ใจดี ผู้ที่ใจบุญต้องการที่จะช่วยเหลือน้องมาร์คสามารถติดต่อสอบถามไปได้ที่ 080- 1479645 คุณ อิ๋ว ลูกสาวของยายทวด  หรือจะบริจาคเงินช่วยเหลือเป็นค่าเล่าเรียนและช่วยซ่อมแซมบ้านสามารถบริจาคได้ที่ ธนาคารออมสิน สาขาปากท่อ ชื่อบัญชี ด.ช.ศุภสิทธิ์ ลายวงศ์  บัญชีออมทรัพย์เลขที่ 020404496745








ปรีชา ราชบุรี ภาพ/ข่าว

อ็อด อินทรีย์พเนจร รายงาน

Post Bottom Ad



Pages