"ธนุ สั่งขันน๊อตความปลอดภัยให้นักเรียนนักศึกษา" - Leadership Way

Breaking

Home Top Ad

Post Top Ad

วันจันทร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565

"ธนุ สั่งขันน๊อตความปลอดภัยให้นักเรียนนักศึกษา"

"ธนุ สั่งขันน๊อตความปลอดภัยให้นักเรียนนักศึกษา"

14 พฤศจิกายน 2565 
ว่าที่ร้อยตรีธนุ วงษ์จินดา เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
กล่าวว่าตามที่สื่อมวลชนได้เสนอข่าว นักเรียนของสถานศึกษาอาชีวศึกษา เอกชนแห่งหนึ่งย่านมีนบุรีก่อเหตุทำร้ายกัน เหตุเกิดช่วงวันที่ 27 ถึง 29 ตุลาคมที่ผ่านมา และทางพ่อ-แม่ของวัยรุ่น 3 คนที่ถูกนักเรียนช่างกลของสถานศึกษาเอกชนย่านมีนบุรี อุ้มไปกักขังภายในบ้านเรือนไทยหลังใหญ่ในซอยรามคำแหง 63 เขตหัวหมาก กรุงเทพมหานคร และต่อมาได้เข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคมเพื่อขอให้ช่วยติดตามคดี หลังผู้เสียหายทั้ง 3 ราย ซึ่งเป็นบุตรชายถูกรุมทำร้ายใช้ปืนกล uzi ปืนพก ปืนไทยประดิษฐ์ ปืนลูกโม่ บังคับให้อมนกเขาโดยมีแฟนสาวลูกชายเจ้าของบ้าน ซึ่งเป็นดาว TikTok ชื่อดัง ใช้ไฟแช็กลนขนเพชรและอวัยวะเพศ ผู้เสียหายทั้ง 3 รายตามที่ปรากฏเป็นข่าวนั้น นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้รับรายงานแล้วมีความห่วงใยและเสียใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้มอบหมายให้ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา โดยศูนย์ความปลอดภัย(ศป.สอศ.) ได้ลงพื้นที่ไปประสานผู้บริหารสถานศึกษาที่เกี่ยวข้องทั้งสองแห่งที่ย่านมีนบุรีกับย่านหัวหมาก และผู้กำกับสน.หัวหมาก ในทันที  ซึ่งตนได้สั่งการด่วนให้นายทวีศักดิ์ คิ้วทอง ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี ประธานกรรมการอาชีวศึกษากรุงเทพ ทำหน้าที่ ผอ.ศูนย์ความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ร่วมกับ ดร.ก้านทิพย์ ชาติวงศ์ ผู้อำนวยการ สำนักบริหารการอาชีวศึกษาเอกชน ลงพื้นที่ไปประชุมร่วมกับสถานศึกษาที่เกี่ยวข้อง เพื่อติดตามและร่วมหาแนวทางเร่งแก้ไขปัญหาเรื่องนี้ด่วน พร้อมให้ทางสถานศึกษาดำเนินการตามระเบียบ กฎหมายอย่างเด็ดขาด ไม่ให้ปัญหาเช่นนี้เกิดขึ้นมาอีกครับ  

วันที่ร้อยตรี ธนุ กล่าวเพิ่มเติมว่า 
ตั้งแต่ตน เข้ามารับตำแหน่งก็ได้ให้ความสำคัญกับเรื่องความปลอดภัยในสถานศึกษา โดยการจัดตั้งศูนย์ความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (ศป.สอศ.) ขึ้นเพื่อเป็นศูนย์กลางในการประสานงาน มีการประชุมร่วมกับทางพลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ และภาคีครือข่ายเพื่อกำหนดมาตรการร่วมกันป้องกันและแก้ปัญหา และได้สั่งการให้สถานศึกษาทั้งภาครัฐและเอกชน ผู้ที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการตามมาตรการดูแลความปลอดภัยสถานศึกษาอย่างเคร่งครัด ให้สถานศึกษาทุกแห่งต้องเป็นเขตปลอดอาวุธปืน อาวุธอื่นๆทุกชนิด ปลอดยาเสพติดอย่างเด็ดขาด และห้ามบุคคลแปลกหน้าเข้ามาในสถานศึกษา ให้จัดระบบดูแลนักเรียนนักศึกษา ประสานกับผู้ปกครอง ตำรวจโรงเรียน สอดส่องดูแลอย่างใกล้ชิดไม่ให้มีการจัดกิจกรรมรับน้องโดยเด็ดขาด และให้ตรวจสอบแหล่งมั่วสุม เฝ้าระวังทางโซเชียลมีเดีย และกำชับทุกสถานศึกษา ต้องทำประวัตินักเรียนให้ความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการดำเนินคดีตามกฎหมาย รวมถึงช่วยเยียวยาดูแลผู้เสียหาย ช่วยเหลือผู้ปกครองทันท่วงที ให้สถานศึกษาทุกแห่งต้องเป็นสถานศึกษาแห่งความปลอดภัยให้ได้โดยเร็วที่สุด

Post Bottom Ad



Pages